"คำนับที่หนึ่ง กราบไหว้ฟ้าดิน
คำนับที่สองกราบไหว้บิดามารดา คำนับที่สามสามีภรรยาแลกเปลี่ยนคำสัตย์สาบาน!"
คู่บ่าวสาวที่สวมชุดสีแดง
ยืนขึ้นสูงในภายห้องโถง เมื่อมีการแลกเปลี่ยนคำสัตย์สาบาน
เจ้าบ่าวหมาดๆ ชูเส่าหยางใบหน้าที่เย็นชาของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ในขณะที่เขามองไปที่เจ้าสาวของเขาที่ใบหน้าถูกคลุมเอาไว้ผ้าสีแดง
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ต่าง ๆ มันแทบจะมีน้ำตาไหลออกมาด้วยซ้ำ
“พิธีเป็นว่าเสร็จสมบูรณ์!
ปล่อยให้คู่แต่งงานใหม่เข้าห้องหอได้! "
ดีมาก ข้ามาทันเวลาพอดี
รอยยิ้มที่จาง ๆ
ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของนาง ในขณะที่นางก้าวไปข้างหน้า
และเดินเข้าไปในภายในห้องโถงจัดงาน
“ช้าก่อน ถ้าปล่อยให้คู่แต่งงานใหม่เข้าห้องหอ
แล้วคนเก่าอย่างข้าควรจะทำเช่นไร”
เสียงของนางนั้นชัดเจนมาก
ในขณะที่พูดออกมาราวกับกำลังล้อเล่นอยู่ แต่เมื่อได้ยินเสียงนี้
ก็ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของชูเส่าหยางแข็งค้างขึ้นทันที
นางได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่คาดฝันที่ประตูของห้องโถงจัดงานแต่งงานและพูดคำกำกวมแบบนี้
การบุกรุกอย่างกะทันหันแบบนี้ดึงดูดความสนใจจากแขกทุกคนได้เป็นอย่างดี
พวกเขาเห็นเฉินหนิง ที่สวมชุดสีแดงประณีต
ที่ผมของนางมีมงกุฎสีทองคลอบเอาไว้ ทำให้นางดูเด่นเป็นพิเศษ
เมื่อทุกคนได้เห็นใบหน้าของนาง
ดวงตาของพวกเขาแทบจะหล่นออกมา
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน ทำไมนางถึงได้น่าเกลียดขนาดนี้”
"คิ้วเหมือนไม้กวาด
และริมฝีปากสีเลือด หน้านั้นดูคล้ายกับก้นของลิง! "
“มันจะบอกว่าน่าเกลียดได้อย่างไร
มันน่าเกลียดถึงจุดที่น่าเศร้า! "
"การเป็นคนน่าเกลียดไม่ใช่ความผิดของนาง
แต่การเป็นคนที่น่าเกลียดและยังคงออกมาเพื่อทำให้ผู้คนตกใจนั้นถึงจะเป็นความผิดของนาง!"
ทุกคนต่างก็หันหน้าหนี
ไม่มีใครอยากที่จะมองไปที่นางเป็นครั้งที่สอง
เสี่ยวหรู เสียใจและโกรธมาก
นางไม่เข้าใจว่าทำไมแม้ว่าคุณหนูใหญ่นั้นจะงดงามมากอย่างเห็นได้ชัด
แต่นางก็ยังคงทำให้ตัวเองดูน่ากลัวเหมือนสัตว์ประหลาด
ปล่อยให้ทุกคนหัวเราะและเยาะเย้นนางเช่นนี้
เฉินหนิงย่นคิ้วลงด้วยความพึงพอใจ
ในขณะที่ยิ้มเล็กน้อย
ดีมากนี่เป็นปฏิกิริยาที่นางต้องการ
มันคุ้มค่ากับการใช้เวลาไปครึ่งวันโดยการแต่งหน้าเพื่อทำให้ตัวเองดูน่าเกลียด
แม้แต่ชูเส่าหยางเองก็ยังเต็มไปด้วยความตกใจเมื่อเห็นการปรากฏตัวของนาง
เขาสูดเอาอากาศเย็นเข้าไป และไม่แม้แต่จะคิดก่อนที่จะตะโกนออกไปเสียงดัง
“ปีศาจที่น่าเกลียดน่ากลัวตันนี้มาจากไหน เร็วเข้า
เอามันออกไปให้พ้นสายตาของข้าเสีย”
“ข้าอยากจะเห็นเหมือนกันว่าใครจะกล้า”เฉินหนิงยกคิ้วหน้าเตอะของนางขดขี่ทุกคนด้วยอารมณ์ของนาง
และหยุดผู้คนที่กำลังจะก้าวมาข้างหน้าเอาไว้
ดวงตาของนางกวาดไปทั่วในหมูแขกทั้งหลาย
ใบหน้าของนางเปลี่ยนไปมาก จนไม่สามารถมองเห็นหน้าเดิมได้
แต่ดวงตาของนางยังคงเหมือนน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ทั้งสดใสและโปร่งแสง
ช่างเป็นดวงตาที่สดใสจริงๆ
ทุกคนรู้ได้ถึงสายตาของนางที่กำลังมองมาที่พวกเขาอยู่
หัวใจของพวกเขาถึงกับขวัญหนีดีฝ่อ
“วันนี้เป็นฤกษ์ดีของพระราชาในการอภิเษกสมรส
ผู้หญิงเก่าๆ อย่างข้าที่พึ่งจะแต่งงานมาได้เพียงแค่สามวัน
ดังนั้นจึงอยากจะมาร่วมแสดงความยินดีกับพระราชาและเจ้าสาว
ดื่มเหล้าองุ่นเพื่อเป็นเกียรติให้แก่พวกเขา นี่เป็นข้อบังคับหรืออย่างไร? เหตุใดฝ่าบาทถึงไม่สอบถามในทุกสิ่งทุกอย่างให้ชัดเจน
ก่อนที่จะสั่งให้คนส่งข้าออกไป? "
ภายใต้การเฝ้ามองจากดวงตาของทุกคน
เฉินหนิงมีท่าทางที่สงบและเยือกเย็น
นางเดินไปที่ตำแหน่งหลักก่อนจะนั่งลงอย่างเปิดเผย
เมื่อนางพูดจบลง ทุกคนเริ่มโผล่ขึ้นมา
“นั่นเป็นคุณหนูใหญ่เฉิน
นางเป็นคุณหนูใหญ่เฉินจริง ๆ แน่” ใครบางคนที่อยู่ในฝูงชนพูดขึ้น
“อะไรนะคุณหนูใหญ่เฉินอย่างนั้นหรือ ในตอนนี้
นางเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฏมลเทียนของพระราชาติ้งหยาง”
“มันไม่น่าจะใช่ ตอนนี้เจ้าสาวหมาด ๆ
ก็คือน้องสาวของนาง นางก็คือคนที่พึ่งจะแต่งมาเป็นพระสนมไม่ใช่หรือ”
“ไม่ใช่อย่างที่คนเขาพูดกันหรือว่า คุณหนใหญ่นั้นป่วยหนักมากถึงขนาดใกล้ตายแล้วด้วยซ้ำ
แล้วนางจะกลับมีชีวิตได้อย่างไร”
“อ่า ดูเหมือนว่าข่าวลือจริง ๆ
แล้วมันก็เป็นเพียงข้ออ้าง ในขณะที่คุณหนูรองเฉินได้แต่งงาน
คุณหนูใหญ่เฉินก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง”
“ไอหยา นรกชัดๆ คุณหนูใหญ่มีฐานะทางสังคมที่สูงส่ง
แต่นางกลับน่าเกลียดได้ขนาดนี้
แล้วอย่างนี้จะให้พระราชาติ้งหยวนที่หล่อเหล่าและฉลาดอดทนอยู่กับนางได้อย่างไร?”
“มันอาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่สามารถจะทนต่อไปได้อีกแล้ว
ดังนั้นเขาจึงได้แต่งงานกับคุณหนูรองเฉินอย่างรวดเร็วเช่นนี้
ใครจะไม่รู้บางว่าคุณหนูรองเฉินนั้นเป็นหญิงงามติดอันดับหนึ่งของเมืองหลวง”
...................
ตรวจบทคุณวิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น